คลังเก็บป้ายกำกับ: สังคมออนไลน์

แนะป้องกันตัวเอง และบุตรหลานจากไข้เลือดออก

 แนะป้องกันตัวเอง และบุตรหลานจากไข้เลือดออกป้องกันยุงลาย

         สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ชี้โรคไข้เลือดออกระบาด มียุงลายเป็นพาหะนำโรค สิ่งสำคัญต้องทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย แหล่งน้ำขังในบ้าน ป้องกันไม่ให้ยุงกัดด้วยการนอนในมุ้ง และไปพบแพทย์เมื่อป่วยพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำ

            นายแพทย์สมศักดิ์ อรรถศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ที่มาจากน้ำลายของยุงที่ไปกัดคนที่เป็นไข้เลือดออกมาก่อน เมื่อคนถูกยุงกัดจะได้รับเชื้อไวรัสเดงกี่อาจจะมีอาการน้อยหรือแทบไม่มีอาการ แต่พบว่าประมาณร้อยละ 2 – 4 ของผู้ที่ถูกยุงกัดเกิดอาการมากที่เรียกว่า “ไข้เลือดออกเดงกี่” หรือเรียกทั่วไปว่า “ไข้เลือดออก” ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดตามตัว ซึม รับประทานอาหารไม่ได้ อาเจียน ปวดท้อง อาจมีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ และอาการหนักจนมีภาวะช็อก ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาทันท่วงทีจะนำไปสู่การเสียชีวิต

         แพทย์หญิงประอร สุประดิษฐ ณ อยุธยา กุมารเวชศาสตร์ – โรคติดเชื้อ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า การป้องกันโรคไข้เลือดอออกที่สำคัญ คือ ป้องกันตัวเองและบุตรหลานไม่ให้ยุงกัดด้วยการนอนในมุ้ง ทายากันยุง ช่วยกันกำจัดทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย เช่น แหล่งน้ำขังในบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ  นอกจากนี้ควรไปพบแพทย์เมื่อป่วย เป็นไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามตัว มีผื่น หรือมีภาวะเลือดออก เช่น จุดเลือดออกตามตัว เพื่อติดตามอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์  โดยเฉพาะไข้เลือดออกที่เป็นมากจะมีโอกาสเกิดภาวะช็อก เมื่อไข้เริ่มลด พ่อแม่ผู้ปกครองจึงไม่ควรประมาท ควรติดตามอาการอื่นๆ เช่น อ่อนเพลีย ซึม รับประทานอาหารไม่ได้ อาเจียน ปวดท้อง  ถ้ามีอาการดังกล่าวแม้ว่าไข้เริ่มจะลดลงแล้วควรไปพบแพทย์ วัคซีนไข้เลือดออกมีประสิทธิภาพดีและมีความปลอดภัย ในผู้ที่เคยป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้ว  จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันโรคไข้เลือดออก  องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ฉีดวัคซีน  ในช่วงอายุ 9-45 ปี  ที่มีหลักฐานยืนยันว่าเคยติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 

กลับสู่หน้าหลัก

Total Page Visits: 137153 - Today Page Visits: 82

รัฐบาล ยัน ไม่ยกเลิกโครงการอาหารกลางวัน

กรณี​ สื่อสังคมออนไลน์​ เผยแพร่ข่าวว่า รัฐบาลมี​ คำสั่งยกเลิก​ โครงการอาหารกลางวันใน​ โรงเรียนประถมศึกษา​ ทั่วประเทศ มีผลนับตั้งแต่ 30 มิ.ย. เป็นต้นไป นั้น ขอยืนยันว่า “เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง”

พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวรัฐบาลมีคำสั่งยกเลิกโครงการอาหารกลางวัน​ ในโรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศ มีผลนับตั้งแต่ 30 มิ.ย. เป็นต้นไป ว่า รัฐบาลขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง

โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่าทุกอย่างยังคงดำเนินการตามปกติ เพราะเป็นโครงการที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องมี

ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยตั้งใจจะปรับปรุงโครงการอาหารกลางวันและโครงการนมโรงเรียนให้ดีขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาการเด็กให้เจริญเติบโตสมบูรณ์แข็งแรง

“นายกฯ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อไม่ให้หลงเชื่อข่าวโคมลอย พร้อมทั้งได้รับรายงานจากกระทรวงศึกษาธิการด้วยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนทั่วประเทศส่งเสริมและสร้างเครือข่าย เพื่อสนับสนุนอาหารเช้าให้กับนักเรียนที่ขาดแคลน หรือนักเรียนที่ไม่ได้กินอาหารเช้ามา เพื่อให้ทุกคนเรียนหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย”

#​ข่าวจากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

กลับสู่หน้าแรก

Total Page Visits: 137153 - Today Page Visits: 82